บัญชี ม้า คือ อะไร? ทำไม เรียก ว่า บัญชีม้า?

บัญชีสถาบัน หรือที่รู้จักในภาษาอังกฤษว่า ‘บัญชีม้า’ เป็นคำที่เพิ่งได้รับความนิยมในโลกของอาชญากรรมออนไลน์ในประเทศไทย นี่ไม่ใช่บัญชีธนาคารประเภทปกติ แต่มักถูกสร้างขึ้นโดยมีเจตนาไม่ดีสำหรับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ชื่อ “บัญชีม้า” มาจากอาชญากรที่ใช้บัญชีนี้ในการทำธุรกรรมฉ้อโกง เช่น การรับเงินจากการฉ้อโกง การพนัน ยา หรือการฟอกเงินในรูปแบบต่างๆ

เพื่อให้เข้าใจแนวคิดของ ‘บัญชีม้า’ ได้ดีขึ้น เราจะมาดูรายละเอียดในบทความ “บัญชี ม้า คือ อะไร? ทำไม เรียก ว่า บัญชีม้า?” ด้านล่างบนเว็บไซต์ esportscampus.vn

บัญชี ม้า คือ อะไร? ทำไม เรียก ว่า บัญชีม้า?
บัญชี ม้า คือ อะไร? ทำไม เรียก ว่า บัญชีม้า?

I. บัญชี ม้า คือ อะไร? ทำไม เรียก ว่า บัญชีม้า?


1. ชี้แจงคำว่า “บัญชีม้า” (บัญชีม้า)

คำว่า “บัญชีม้า” (อ่านว่า “บันชีมา”) หมายถึงบัญชีธนาคารประเภทหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของกิจกรรมทางการเงินที่ฉ้อโกง โดยพื้นฐานแล้วจะแปลเป็น “บัญชีม้า” เป็นภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม คำนี้อาจจะดูน่างงเมื่อมองแวบแรก เหตุผลเบื้องหลังชื่อที่ผิดปกตินี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของบทบาทของบัญชีในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ

‘บัญชีม้า’ คือบัญชีที่เปิดโดยบุคคลหรือกลุ่มโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมาย เช่น การรับเงินที่ได้รับจากการหลอกลวง การพนัน ธุรกรรมยาเสพติด หรือการฟอกเงิน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าคำนี้ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับม้า แต่เป็นสัญลักษณ์ของลักษณะที่เป็นความลับและติดตามไม่ได้ของเรื่องราวเหล่านี้

2. ความเกี่ยวข้องของคำและความสำคัญของคำในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

คำว่า “บัญชีม้า” มีความเกี่ยวข้องที่สำคัญในขอบเขตของธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายและการหลอกลวง บัญชีเหล่านี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทำหน้าที่เป็นช่องทางในการก่ออาชญากรรมทางการเงินในรูปแบบต่างๆ โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะใช้เพื่อหลอกลวงบุคคลให้โอนเงิน ทำให้เกิดความท้าทายสำหรับเจ้าหน้าที่ในการติดตามเงินทุนกลับไปยังผู้กระทำผิด

ความสำคัญของคำนี้อยู่ในความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางอาญาหลายประเภท รวมถึงการหลอกลวง การฉ้อโกง และการฟอกเงิน องค์กรและบุคคลทางอาญามักจะใช้ประโยชน์จาก ‘บัญชีม้า’ เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินงานที่ผิดกฎหมาย ทำให้เป็นคำกลางในการสนทนาที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางการเงิน

3. วัตถุประสงค์ของบทความ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความกระจ่างเกี่ยวกับแนวคิดของ ‘บัญชีม้า’ หรือ “บัญชีม้า” และบทบาทของบัญชีม้าในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ด้วยการให้คำอธิบายเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่บัญชีเหล่านี้เกี่ยวข้อง ความเชื่อมโยงกับพฤติกรรมหลอกลวง และกรอบทางกฎหมายที่อยู่โดยรอบ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอันตรายที่เกี่ยวข้องกับบัญชีดังกล่าว

นอกจากนี้ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้ผู้อ่านทราบถึงผลทางกฎหมายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างหรือการใช้ ‘บัญชีม้า’ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมาย เป้าหมายสูงสุดของเราคือการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ และส่งเสริมให้มีการเฝ้าระวังต่อการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงทางการเงินและการฉ้อโกง

II. เตือนภัย บัญชีม้า คือ รับจ้างเปิดบัญชี มีโทษอย่างไร เอาผิดได้มั๊ย


III. ‘บัญชีม้า’ (บัญชีม้า) คืออะไร?


1. คำจำกัดความของ ‘บัญชีม้า’ (บัญชีม้า)

ก. ‘บัญชีม้า’ (บัญชีม้า) โดยพื้นฐานแล้วคือบัญชีธนาคารที่จัดตั้งขึ้นโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลโดยมีจุดประสงค์อย่างชัดเจนในการนำไปใช้เพื่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มลับสำหรับการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย

ข. บัญชีเหล่านี้มีชื่อเสียงเป็นพิเศษจากการเชื่อมโยงกับกิจกรรมฉ้อโกงมากมาย โดยทั่วไปมักถูกใช้เพื่อรับเงินผิดกฎหมายที่ได้รับผ่านแผนการหลอกลวงต่างๆ รวมถึงการหลอกลวง การดำเนินการการพนันออนไลน์ ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และการฟอกเงิน โดยพื้นฐานแล้ว ‘บัญชีม้า’ ทำหน้าที่เป็นช่องทางสำหรับผลประโยชน์ที่ได้มาโดยมิชอบจากการดำเนินคดีทางอาญา ทำให้บัญชีม้าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเหล่านี้

2. การใช้ ‘บัญชีม้า’ ในการกระทำอันเป็นการหลอกลวง

ก. ประเด็นที่น่ากังวลที่สุดประการหนึ่งของ ‘บัญชีม้า’ คือวิธีที่ศูนย์บริการทางโทรศัพท์และแผนธุรกิจแบบพีระมิดมักจะใช้ประโยชน์จากพวกเขาเพื่อหลอกลวงเหยื่อที่ไม่สงสัยให้โอนเงิน องค์กรอาชญากรรมเหล่านี้มักจะใช้วิธีการหลายแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับตัวแทนศูนย์บริการทางโทรศัพท์ที่สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่หรือสถาบันที่มีชื่อเสียง พวกเขาใช้รูปแบบต่างๆ ของการบงการทางจิตวิทยาและการข่มขู่เพื่อชักชวนเหยื่อให้ส่งเงิน โดยเชื่อว่าพวกเขากำลังปฏิบัติตามคำขอของทางการหรือภาระผูกพันทางกฎหมาย

ข. ความซับซ้อนของ ‘บัญชีม้า’ อยู่ที่ความสามารถในการปิดบังเส้นทางที่นำกลับไปยังผู้กระทำผิด ‘บัญชีม้า’ ต่างจากบัญชีธนาคารทั่วไป ‘บัญชีม้า’ เหล่านี้ได้รับการออกแบบโดยตั้งใจให้ท้าทายในการติดตามหรือเชื่อมโยงกับบุคคลหรือกลุ่มที่รับผิดชอบต่อกิจกรรมทางอาญา ทำให้เป็นเรื่องยากเป็นพิเศษสำหรับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการระบุและจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังพฤติกรรมหลอกลวงเหล่านี้ ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่วงจรการดำเนินการทางอาญาที่ยืดเยื้อยาวนาน

โดยสรุป ‘บัญชีม้า’ มีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกในการกิจกรรมฉ้อโกงโดยปกปิดตัวตนของอาชญากร และทำหน้าที่เป็นช่องทางในการหารายได้ที่ผิดกฎหมายจากการหลอกลวงและแผนการต่างๆ การทำความเข้าใจความแตกต่างของบัญชีเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงินและการปกป้องผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากการตกเป็นเหยื่อไปสู่การกระทำที่หลอกลวง

IV. กรอบกฎหมาย


1. บทนำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2023

พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. พ.ศ. 2566 เป็นกรอบกฎหมายสำคัญที่นำมาใช้ในประเทศไทย เพื่อจัดการกับภาพรวมที่เปลี่ยนแปลงไปของอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี กฤษฎีกานี้ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2566 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์และปกป้องบุคคลและธุรกิจจากผลกระทบด้านลบของความผิดดังกล่าว

เป็น. ปี 2023 ตระหนักถึงการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นเพื่อก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการฉ้อโกงทางการเงินและการหลอกลวง กฤษฎีกาทำหน้าที่เป็นกลไกทางกฎหมายในการยับยั้งและลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดกฎหมายเหล่านี้

2. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอย่างผิดกฎหมายเพื่อกิจกรรมฉ้อโกง

พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. ปี 2023 มีข้อกำหนดเฉพาะที่มุ่งควบคุมการใช้เทคโนโลยีอย่างผิดกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ในการฉ้อโกง จัดการกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่หลากหลาย รวมถึงอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ หรือบัญชีม้า พระราชกฤษฎีการับทราบว่าเทคโนโลยีอาจเป็นดาบสองคม และการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดอาจนำไปสู่ความสูญเสียทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญและความเสียหายต่อสังคม

บทบัญญัติสำคัญบางประการในพระราชกฤษฎีกาครอบคลุมมาตรการเพื่อป้องกันและลงโทษบุคคลและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี โดยสรุปถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปกป้องสภาพแวดล้อมดิจิทัลและส่งเสริมความปลอดภัยทางไซเบอร์

3. ข้อกำหนดเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ และบทลงโทษที่เกี่ยวข้อง

ภายใต้พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. ปี 2023 มีข้อกำหนดเฉพาะที่กล่าวถึงการใช้ ‘บัญชีม้า’ หรือบัญชีม้าโดยตรงโดยผิดกฎหมาย ข้อเหล่านี้กำหนดกรอบทางกฎหมายในการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างหรือใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ในการฉ้อโกง

บทลงโทษสำหรับบุคคลที่พบว่ามีความผิดที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ อาจรุนแรงตามที่ระบุไว้ในพระราชกฤษฎีกา บทลงโทษเหล่านี้อาจรวมถึงการจำคุก ค่าปรับ หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะและความร้ายแรงของความผิด ความรุนแรงของการลงโทษสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงิน และสร้างความมั่นใจว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างมีนัยสำคัญจากการกระทำของพวกเขา

ข้อกำหนดเฉพาะเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ และตอกย้ำความสำคัญของการปฏิบัติตามมาตรฐานทางกฎหมายและจริยธรรมในธุรกรรมทางการเงิน

V. ความผิดและบทลงโทษ


1. ความผิดลหุโทษที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’

ก. ความผิดลหุโทษ 9: การเปิดหรืออนุญาตให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมาย

ความผิดลหุโทษ 9 ตามพระราชกฤษฎีกาป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. พ.ศ. 2566 กล่าวถึงการกระทำในการเปิดหรืออนุญาตให้ใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีเจตนาชัดเจนว่าจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสร้าง ‘บัญชีม้า’ หรือบัญชีม้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการฉ้อโกง

ข. ความผิดลหุโทษที่ 10: การมีส่วนร่วมในการซื้อ ขาย โฆษณา หรือเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’

ความผิดลหุโทษ 10 มุ่งเป้าไปที่บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อมในการดำเนินการเชิงพาณิชย์ของ ‘บัญชีม้า’ ซึ่งครอบคลุมถึงกิจกรรมต่างๆ เช่น การซื้อ การขาย การโฆษณา หรือการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบัญชีเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการส่งเสริมหรืออำนวยความสะดวกในการใช้ ‘บัญชีม้า’ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมายจะจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้

ค. ความผิดลหุโทษ 11: ทำธุรกรรมเกี่ยวกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้ลงทะเบียน

ความผิดลหุโทษ 11 มุ่งเน้นไปที่การทำธุรกรรมทางการเงินที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้ลงทะเบียน ข้อนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในกรณีที่การดำเนินการของ ‘บัญชีม้า’ เกี่ยวข้องกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่สามารถติดตามได้หรือเป็นนิรนามเพื่อการหลอกลวง

2. ผลที่ตามมาทางกฎหมายสำหรับบุคคลที่ทราบดีว่าเกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’

ก. บุคคลที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานลหุโทษ 9 ได้แก่การเปิดหรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีโดยมิชอบ อาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ บทลงโทษนี้เน้นย้ำถึงความร้ายแรงของการเปิดใช้งานหรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย

ข. ความผิดลหุโทษ 10 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ บทลงโทษอันเข้มงวดนี้ถือเป็นการป้องปรามผู้ที่เกี่ยวข้องในเชิงพาณิชย์หรือส่งเสริม ‘บัญชีม้า’ สำหรับการทำธุรกรรมที่ฉ้อโกง

ค. ความผิดลหุโทษ 11 การทำธุรกรรมด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้ลงทะเบียน มีโทษจำคุก 2 ถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผลทางกฎหมายนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่สามารถติดตามได้ในการหลอกลวง

การใช้บทลงโทษเหล่านี้ขึ้นอยู่กับลักษณะและความร้ายแรงของความผิด โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ และกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายที่คล้ายคลึงกัน ผลทางกฎหมายเหล่านี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขัดขวางกิจกรรมดังกล่าวและการรักษากฎหมายในภูมิทัศน์ดิจิทัลที่กำลังพัฒนาของประเทศไทย

VI. ผลกระทบต่อผู้ถือบัญชี ‘บัญชีม้า’


1. ผลที่ตามมาสำหรับผู้ถือบัญชีที่จงใจอำนวยความสะดวกในการฉ้อโกง

บุคคลที่จงใจมีส่วนร่วมในการสร้างและการจัดการ ‘บัญชีม้า’ หรือบัญชีม้า ซึ่งนำไปใช้ในกิจกรรมฉ้อโกง อาจเผชิญกับผลที่ร้ายแรง เจ้าของบัญชีเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเปิดใช้งานและก่ออาชญากรรมทางการเงิน จึงอยู่ภายใต้การดำเนินการทางกฎหมายและบทลงโทษตามพระราชกฤษฎีกาป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2023.

เจ้าของบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกในกิจกรรมการฉ้อโกงสามารถถูกดำเนินคดีเนื่องจากการสมรู้ร่วมคิดในการดำเนินการทางอาญา ความร้ายแรงของการลงโทษขึ้นอยู่กับขอบเขตของการมีส่วนร่วมและความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของพวกเขา

2. ศักยภาพในการตั้งข้อหาฟอกเงิน

นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ ‘บัญชีม้า’ เพื่อการหลอกลวง เจ้าของบัญชียังอาจถูกตั้งข้อหาฟอกเงินอีกด้วย การฟอกเงินเป็นกระบวนการปลอมแปลงต้นกำเนิดของเงินทุนที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย โดยการส่งผ่านลำดับการโอนเงินทางธนาคารหรือธุรกรรมเชิงพาณิชย์ที่ซับซ้อน ‘บัญชีม้า’ มักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน เนื่องจากมีความสามารถในการปิดบังแหล่งที่มาของเงินทุน

กฎหมายไทย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กำหนดกฎระเบียบและบทลงโทษที่เข้มงวดสำหรับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการฟอกเงิน ผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฟอกเงินอาจต้องระวางโทษจำคุก ปรับหนัก หรือทั้งจำทั้งปรับ ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของความผิด ผลทางกฎหมายเหล่านี้มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลใช้ ‘บัญชีม้า’ หรือบัญชีที่คล้ายกันเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน

3. บทลงโทษและการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา

ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ บุคคลอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญาไทย ขึ้นอยู่กับลักษณะและขอบเขตของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมฉ้อโกง บุคคลอาจถูกตั้งข้อหาในความผิดต่างๆ รวมถึงการฉ้อโกง การหลอกลวง หรือการสมคบคิดเพื่อก่ออาชญากรรมทางการเงิน

โทษตามประมวลกฎหมายอาญามีตั้งแต่โทษปรับจนถึงจำคุก โดยมีระยะเวลาจำคุกขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของความผิด การดำเนินการทางกฎหมายเหล่านี้มีขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่จงใจมีส่วนร่วมในกิจกรรมฉ้อโกง รวมถึงการดำเนินงานของ ‘บัญชีม้า’ จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน

สุดท้ายนี้ ผลทางกฎหมายที่ได้ระบุไว้ในพระราชกฤษฎีกาป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2566 ถือเป็นกรอบทางกฎหมายที่ครอบคลุมเพื่อจัดการกับอาชญากรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ บทลงโทษเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อขัดขวางบุคคลไม่ให้มีส่วนร่วมหรืออำนวยความสะดวกในกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ในขณะเดียวกันก็ตอกย้ำความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมายในโลกดิจิทัลของประเทศไทย

VII. อันตรายจาก ‘บัญชีม้า’


1. ผู้ฉ้อโกงดำเนินการอย่างไรด้วยกลวิธีหลอกลวง

ก. การใช้บัญชี ‘บัญชีม้า’ หลายบัญชีสำหรับการโอนเงิน:

ผู้ฉ้อโกงมีความเชี่ยวชาญในการใช้ ‘บัญชีม้า’ หรือบัญชีม้าหลายบัญชีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลวิธีหลอกลวง บัญชีเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินงาน ช่วยให้สามารถรับและโอนเงินที่ผิดกฎหมายได้อย่างรอบคอบ ด้วยการเข้าถึงบัญชีเหล่านี้หลายบัญชี ผู้ฉ้อโกงสามารถแยกและกระจายเงินจากเหยื่อหรือแหล่งที่ผิดกฎหมายได้อย่างง่ายดาย ทำให้การติดตามแหล่งที่มาของเงินมีความท้าทายมากขึ้น

นอกจากนี้ การใช้บัญชี ‘บัญชีม้า’ หลายบัญชียังช่วยให้ผู้ฉ้อโกงสามารถปิดบังกิจกรรมของพวกเขาเพิ่มเติมได้ พวกเขาอาจสลับระหว่างบัญชีเหล่านี้ในระหว่างการทำธุรกรรม ทำให้ยากสำหรับเจ้าหน้าที่ในการเชื่อมโยงบัญชีเดียวกับบุคคลหรือกลุ่มเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางอาญา

ข. การหลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมายโดยการโอนเงินผ่านหลายบัญชี:

กลยุทธ์หลอกลวงอีกประการหนึ่งที่ผู้ฉ้อโกงใช้คือการโอนเงินผ่านเครือข่ายบัญชี ‘บัญชีม้า’ เทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับชุดธุรกรรมทางการเงินที่มีการเคลื่อนย้ายเงินระหว่างหลายบัญชี ซึ่งมักจะดำเนินการต่อเนื่องกันอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างรวดเร็วนี้อาจทำให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายมีความท้าทายอย่างมากในการติดตามและจับกุมผู้รับผิดชอบ

นอกจากนี้ การใช้หลายบัญชีเหล่านี้ยังทำหน้าที่เป็นม่านควัน ซึ่งเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ไปจากผู้กระทำผิดหลัก ช่วยให้ผู้ฉ้อโกงสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับและดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่อไปได้

2. ความร้ายแรงของความผิดและบทลงโทษที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’

ความผิดที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ มีผลกระทบทางกฎหมายที่สำคัญเนื่องจากการมีส่วนร่วมในการฉ้อโกงทางการเงินและการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ บทลงโทษที่เกี่ยวข้องกับความผิดเหล่านี้สะท้อนถึงความรุนแรงของอาชญากรรมที่กระทำ:

บุคคลที่พบว่ามีความผิดฐานสร้างหรือใช้ ‘บัญชีม้า’ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมาย อาจต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่ระบุไว้ในความผิดลหุโทษ 9 แห่งพระราชกฤษฎีกาป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , เป็น. 2023.

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้า การส่งเสริม หรือเผยแพร่ ‘บัญชีม้า’ อาจถูกจำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 5 ปี และปรับระหว่าง 200,000 ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ภายใต้ความผิดลหุโทษ 10

การทำธุรกรรมเกี่ยวกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งมักเชื่อมโยงกับ ‘บัญชีม้า’ อาจมีโทษจำคุก 2 ถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่ระบุไว้ในความผิดลหุโทษ 11

บทลงโทษเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลเข้าร่วมหรืออำนวยความสะดวกในกิจกรรมฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของทางการไทยในการจัดการกับอาชญากรรมทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และปกป้องบุคคลจากการตกเป็นเหยื่อของแผนการหลอกลวง

VIII. การรายงานและการให้ความช่วยเหลือ


1. สายด่วนแจ้งเหตุฉ้อโกงและเหตุการณ์บัญชีม้า (1212)

ในประเทศไทยมีสายด่วนเฉพาะ 1212 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สายด่วนนี้ทำหน้าที่เป็นจุดติดต่อสำคัญในการรายงานกิจกรรมการฉ้อโกง รวมถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ หรือบัญชีม้า บุคคลที่สงสัยหรือตกเป็นเหยื่อของแผนการหลอกลวง การฉ้อโกงทางการเงิน หรือการใช้เทคโนโลยีที่ผิดกฎหมาย สามารถติดต่อสายด่วนนี้เพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันที

สายด่วนซึ่งมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมช่วยให้บุคคลสามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นและขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการกับรายงานของตนได้ การรายงานเหตุการณ์โดยทันทีผ่าน 1212 สามารถช่วยเหลือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการสืบสวนและต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงิน ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว จะเอื้อต่อสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน

2. ตัวเลือกการรายงานออนไลน์ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

นอกเหนือจากสายด่วนแล้ว ทางการไทยยังได้จัดทำเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเพื่ออำนวยความสะดวกในการรายงานกิจกรรมการฉ้อโกงทางออนไลน์ รวมถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ เว็บไซต์เหล่านี้มีแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ ซึ่งบุคคลสามารถส่งรายงานโดยละเอียด แบ่งปันหลักฐาน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่ต้องสงสัยทางอาญา

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการบางแห่งที่มีตัวเลือกการรายงานออนไลน์ ได้แก่ www.thaipoliceonline.com และ www.pct.police.go.th แพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงกระบวนการรายงานและให้แน่ใจว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เหมาะสมอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ข้อมูลการติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือและการรายงาน

สำหรับบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการรายงานกิจกรรมการฉ้อโกงและเหตุการณ์ ‘บัญชีม้า’ ข้อมูลการติดต่อดังต่อไปนี้:

สายด่วน: 1212 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ:
www.thaipoliceonline.com
www.pct.police.go.th
นอกจากนี้ บุคคลทั่วไปสามารถติดต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่หรือเยี่ยมชมสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดเพื่อรายงานเหตุการณ์ด้วยตนเอง การรายงานอย่างรวดเร็วถือเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างรวดเร็วต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมฉ้อโกงและการดำเนินงานของ ‘บัญชีม้า’ ตัวเลือกการติดต่อเหล่านี้ช่วยให้บุคคลมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน ในขณะเดียวกันก็ปกป้องตนเองและชุมชนจากการหลอกลวงและพฤติกรรมหลอกลวงที่อาจเกิดขึ้น

การรายงานและการให้ความช่วยเหลือ
การรายงานและการให้ความช่วยเหลือ

โปรดทราบว่าข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอในบทความนี้นำมาจากแหล่งต่างๆ รวมถึง wikipedia.org และหนังสือพิมพ์อื่นๆ อีกหลายฉบับ แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดแล้ว แต่เราไม่สามารถรับประกันได้ว่าทุกสิ่งที่กล่าวถึงมีความถูกต้องและไม่ได้รับการยืนยัน 100% ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณใช้ความระมัดระวังเมื่ออ่านบทความนี้หรือใช้เป็นแหล่งในการวิจัยหรือการรายงานของคุณเอง

Back to top button